Temple Concerns 12 วัด
เชียงราย

"ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง" ใคร ๆ ก็รู้ดี เพราะโชคลาภ และสิ่งมงคล ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล แต่มาจากการกระทำ และความตั้งใจที่ดีต่างหาก การได้เดินทาง ไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเอง ได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ผสานกับความงดงาม ของศิลปะ วัฒนธรรม และธรรมชาติ ทำให้การเดินทางครั้งนี้ เป็นมากกว่า ทริปท่องเที่ยว แต่เป็นประสบการณ์ที่ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยความหมาย

ทริปสุดพิเศษนี้ นำเสนอการท่องเที่ยวเชียงราย ผ่านมุมมองใหม่ โดยมี "วัดสวย" เป็นจุดหมายหลัก เจซีทัวร์ได้คัดสรรวัด ที่โดดเด่น ทั้งด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรม และความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นวัดเก่าแก่ ที่เปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์ หรือวัดร่วมสมัย ที่สะท้อนความงดงามแห่งศรัทธา แพ็คเกจ Temples Concern 3 วัน 2 คืน ไม่เพียงพาคุณ สู่เส้นทางแห่งบุญ แต่ยังเติมเต็ม ด้วยจุดหมายปลายทาง ที่งดงาม สร้างสมดุลระหว่างจิตใจ และสายตา ให้การเดินทางครั้งนี้ เป็นทั้งการพักผ่อน และการเติมเต็มพลังใจ อย่างแท้จริง

เพื่อให้การเดินทางของคุณ สมบูรณ์แบบที่สุด ขอแนะนำให้คุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ศึกษาโปรแกรมทัวร์ ที่จัดสรรมาอย่างลงตัว ชมภาพ Highlight ที่คัดสรรมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และหากมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถ โทรสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ 089-5727603 หรือ แอดไลน์ @jctour ทีมงานของเราพร้อมดูแล และตอบทุกคำถาม เพื่อช่วยให้คุณมั่นใจ ในการตัดสินใจครั้งสำคัญ สำหรับการเดินทางที่ดีที่สุด

วัดแสงแก้วโพธิญาณ (ได้สร้างเพราะมีความฝัน และฝัน และผู้ใจบุญ ใคร?

เมื่อความศรัทธาสร้างวัดที่งดงามเกินจินตนาการ

แรงบันดาลใจของ ครูบาอริยชาติ ที่ต้องการสร้างวัด เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้คงอยู่คู่โลก ไม่ใช่แค่ความตั้งใจธรรมดา แต่เป็นความฝันอันแรงกล้า ที่ขับเคลื่อนด้วยศรัทธา จนกระทั่งท่านได้รับนิมิต เห็นสถานที่อันเหมาะสม ทว่าปัญหาสำคัญก็คือ ราคาที่ดิน สูงเกินกำลังของพระสงฆ์ แต่โลกนี้ยังคงมีผู้ใจบุญ ที่พร้อมมอบสิ่งยิ่งใหญ่ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ที่ดิน 19 ไร่ ถูกบริจาค เพื่อก่อสร้างวัด อันงดงามตระการตา จนกลายเป็นสถานที่แห่งศรัทธา ที่ทำให้ผู้มาเยือนต้องตะลึง

แน่นอนว่า คำถามที่หลายคนอยากรู้ คือ "ใครคือผู้บริจาคที่ดินผืนนี้?" และอะไรคือแรงผลักดัน ให้เขาหรือเธอ ยอมมอบสิ่งล้ำค่าที่สุด เพื่อสร้างวัดแห่งนี้ ทริปสุดพิเศษนี้ จะพาท่านไป สัมผัสสถานที่จริง ไขคำตอบของเรื่องราวลึกลับนี้ ด้วยตัวเอง พร้อมเรียนรู้ถึงพลังแห่งศรัทธา และการให้ที่ยิ่งใหญ่ ที่ไม่ได้เพียงสร้างวัดที่สวยงาม แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับทุกหัวใจ ที่ได้มาสัมผัส

วัดกลางเวียง...

วัดกลางเวียง: จุดศูนย์กลางแห่งศรัทธาและประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย

สำหรับคนไทย “ชื่อ” มักเป็นสิ่งที่เรียบง่าย และมีความหมายลึกซึ้ง เช่นเดียวกับ วัดกลางเวียง ที่ชื่อของมันบ่งบอกถึง ที่ตั้งได้อย่างชัดเจน "เวียง" แปลว่าเมือง หมายความว่า วัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงราย อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ในอดีต วัดแห่งนี้ เคยมีชื่อว่า วัดจันทร์โลก เนื่องจากมีต้นจันทร์แดง ไม้มงคลสูงสุด ที่นิยมใช้ถวายพระ ปัจจุบันแม้ชื่อจะเปลี่ยนไป แต่วัดแห่งนี้ ยังคงเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธา และวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า

สิ่งที่ทำให้วัดกลางเวียง พิเศษกว่าชื่อของมันคือ การเป็นที่ตั้งของ เสาหลักเมืองเชียงราย ซึ่งเป็นศูนย์กลาง แห่งพลังศรัทธา ของชาวเมือง นักท่องเที่ยวที่มาเยือน จะได้สัมผัสกับ ความศักดิ์สิทธิ์ของเสาหลักเมือง สักการะพระประธานองค์ใหญ่ ใต้สถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์ และชื่นชมต้นจันทร์แดงโบราณ ขนาดใหญ่ ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล วัดนี้ จึงไม่เพียงแต่เป็น สถานที่ทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่ควรค่าแก่การมาเยือน ของทุกคน

วัดพระแก้ว (พระแก้วมรกตพบครั้งแรกที่วัดนี้)

พระแก้วมรกต: จากฟ้าผ่าสู่ศูนย์กลางแห่งศรัทธา

เรื่องราวของ พระแก้วมรกต เริ่มต้นขึ้นที่วัดป่าไผ่ จังหวัดเชียงราย เมื่อครั้งอดีต ที่นั่นมีเจดีย์เก่าแก่ ตั้งตระหง่านอยู่ ท่ามกลางธรรมชาติ จนกระทั่งวันหนึ่ง ฟ้าผ่าลงมา ทำให้เจดีย์พังทลาย แต่ภายใต้ซากปรักหักพัง กลับเผยให้เห็น สิ่งมหัศจรรย์ องค์พระพุทธรูปแกะสลักจากหยกเขียว งดงามไร้ที่ติ ผู้คนต่างเชื่อว่า นี่คือพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ พระแก้วมรกต จึงกลายเป็น ศูนย์กลางแห่งศรัทธา และเป้าหมาย ของผู้ปกครองบ้านเมือง ที่ต้องการเชิญไปประดิษฐาน ในหัวเมืองสำคัญ เพื่อแสดงถึงอำนาจ และบารมี ด้วยเหตุนี้ พระแก้วมรกต ึงได้เดินทางไปประดิษฐาน ในเมืองใหญ่หลายแห่ง ไล่เรียงจาก ลำปาง เชียงใหม่ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ กรุงธนบุรี จนกระทั่ง มาสถิตอย่างสง่างาม ณ กรุงเทพมหานคร ภายใน วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในปัจจุบัน

วัดพระแก้วเชียงราย: ต้นกำเนิดแห่งตำนานและศิลปะล้านนา

วัดป่าไผ่ ที่เคยเป็นสถานที่ค้นพบ พระแก้วมรกต ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อ เป็น วัดพระแก้วเชียงราย และกลายเป็น โบราณสถานสำคัญของชาติ เจดีย์ที่ครั้งหนึ่ง เคยถูกฟ้าผ่า กลายเป็นโบราณสถานล้ำค่า ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน จากกรมศิลปากร ภายในวัดยังประดิษฐาน พระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นองค์พระพุทธรูป ที่งดงามที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ วัดพระแก้วยังมี หอพระหยก ที่ประดิษฐาน พระหยกเชียงราย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานศิลปะล้านนา ที่ทรงคุณค่า ความงดงามทางศิลปะ และพลังแห่งศรัทธา ที่อบอวลอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้การมาเยือนที่นี่ เป็นประสบการณ์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมใจ หากความสุขมี กลิ่น ได้จริง ๆ คงขจรขจายไปทั่ววัด และตราตรึงอยู่ในใจ ของทุกผู้ที่มาเยือน

วัดมิ่งเมือง หรือวัดช้างหมอบ

วัดมิ่งเมือง: ศูนย์กลางแห่งศรัทธาและตำนานพ่อขุนเม็งราย

วัดมิ่งเมือง เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญ ที่มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้น กับ วัดพระแก้ว และ พ่อขุนเม็งราย กษัตริย์ผู้ก่อตั้งเมืองเชียงราย ในอดีต ทุกวันสำคัญ จะมีการอัญเชิญ พระแก้วมรกต ออกจากวัดพระแก้ว เพื่อนำแห่ รอบเมืองเชียงราย โดยมีเจ้าเมืองเป็นประธาน วัดมิ่งเมือง จึงเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญ ของขบวนแห่ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ ตำนานยังเล่าว่า พ่อขุนเม็งราย ใช้วัดแห่งนี้เป็นจุดขึ้นช้าง โดยช้างต้องหมอบ เพื่อให้พระองค์ขึ้นขี่ได้สะดวก นี่จึงเป็นที่มา ของชื่ออีกชื่อหนึ่ง ของวัดนี้ คือ วัดช้างหมอบ ซึ่งสะท้อน ถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับปฐมกษัตริย์แห่งล้านนา

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคลาภ

นอกจากความเกี่ยวข้อง กับประวัติศาสตร์ วัดมิ่งเมือง ยังเป็นแหล่งโบราณสถาน ที่ทรงคุณค่า มี บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ ตามความเชื่อโบราณ นักเดินทาง ที่เข้าสู่เมืองเชียงราย มักจะแวะล้างหน้า หรือลิ้มรสน้ำจากบ่อนี้ ก่อนเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง เพราะเชื่อว่า จะช่วยนำพาโชคลาภ ความเป็นสิริมงคล และปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป ทริปนี้จึง ไม่ได้พาท่านมาเพียงเพื่อ ชมความงามของวัดเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสให้ทุกท่าน ได้สัมผัสพลังแห่งโชค และความศรัทธา พร้อมเปิดรับสิ่งดี ๆ เข้าสู่ชีวิต แบบฉบับล้านนาแท้ ๆ

สวนแม่ฟ้าหลวงที่ดอยตุง...

ดอยตุง: ความงามที่เกิดจากพระราชปณิธานอันแน่วแน่

"ชอบอะไรก็พยายามสร้างสิ่งนั้น ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องใส่คำถามว่า ทำยังไงให้ได้?" นี่คือแนวคิดของ สมเด็จย่า ผู้ทรงรัก และผูกพันกับเมืองไทย มากกว่าสวิตเซอร์แลนด์ พระองค์จึงทรงมีพระราชดำริ ให้สร้าง พระตำหนักดอยตุง ด้วยสถาปัตยกรรมล้านนา อันวิจิตร ผสานกลิ่นอายแบบชาเลต์ ของสวิสเซอร์แลนด์ รายล้อมไปด้วย สวนแม่ฟ้าหลวง ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้เมืองหนาว นานาพรรณ อวดโฉมกันตลอดทั้งปี ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังอบอวลไปด้วย ความหมาย และพลังแห่งการพัฒนา เปลี่ยนพื้นที่กันดาน ให้กลายเป็นสวรรค์ บนดอยที่งดงามเหนือคำบรรยาย

สัมผัสสวรรค์แห่งดอกไม้ โดยไม่ต้องไปถึงสวิตเซอร์แลนด์

หากใครใฝ่ฝัน อยากเห็นสวนดอกไม้เมืองหนาว ที่งดงาม ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงยุโรป เพราะแพ็คเกจนี้ จะพาท่านไปสัมผัส สวนแม่ฟ้าหลวง บนดอยตุง ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสดชื่น ท่ามกลางดอกไม้เมืองหนาว ที่บานสะพรั่งอย่างละลานตา ที่นี่ไม่ได้มีเพียงความงาม แต่ยังสะท้อนถึง พระราชปณิธานของสมเด็จย่า ที่ต้องการสร้างสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับแผ่นดินไทย โชคดีที่ครั้งนี้ ท่านไม่ต้องบินไปไกล เพราะทุกความงาม ความสดชื่น และความโชคดี กำลังรอให้ท่านมาสัมผัส ด้วยตัวเองที่ ดอยตุง

วัดขัวแคร่... เครื่องหมายของการเชื่อมต่อ...

วัดขัวแคร่: เชื่อมอดีต ปัจจุบัน และอนาคตผ่านศิลปะศรัทธา

วัดขัวแคร่ มีประวัติยาวนาน ย้อนกลับไปถึงช่วง ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และแม้จะผ่าน ช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงผลกระทบ จากสงคราม วัดแห่งนี้ ก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ในรูปแบบ Re-Art Build ซึ่งหมายถึง การสร้างขึ้นใหม่ โดยคงไว้ ซึ่งจิตวิญญาณดั้งเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยความร่วมสมัย ทุกองค์ประกอบของวัด ไม่ว่าจะเป็นศาสนสถาน สถาปัตยกรรม หรือจิตรกรรม ล้วนถูกออกแบบ ให้เชื่อมโยงระหว่างวิถีชีวิตของผู้คน ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และประเพณีของล้านนา นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึง อดีต ปัจจุบัน และบางทีอาจรวมถึงอนาคต ผ่านงานศิลปะ ที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย

ศิลปะที่บรรจงสร้าง กับประสบการณ์ Temple Entertain

สิ่งที่ทำให้วัดขัวแคร่พิเศษคือ การหลอมรวมศิลปะเข้าไป ในทุกมุมของศาสนสถาน ที่นี่ไม่ใช่เพียงวัด สำหรับสักการะ แต่ยังเป็นพื้นที่ แห่งแรงบันดาลใจ ที่ทำให้ผู้มาเยือนได้รับ อรรถรสและความบันเทิง ทางจิตวิญญาณ ในแบบที่หาไม่ได้จากที่อื่น ไม่ว่าท่านจะเป็นสายศิลปะ สายบุญ หรือสายท่องเที่ยว การได้เดินชม และสัมผัสสถาปัตยกรรม ที่เต็มไปด้วย ความคิดสร้างสรรค์ จะทำให้ท่าน รู้สึกเหมือนได้เดินทาง ผ่านกาลเวลา และได้รับ Temple Entertain อย่างแท้จริง

วัดพระธาตุดอยแมงป่อง ริมฝั่งโขง สุดเขตสยาม..

พระธาตุดอยวาว: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งสายน้ำโขง

บน ดอยวาว หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า ดอยแมงป่อง เป็นที่ตั้งของพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่คู่แผ่นดินล้านนา มายาวนาน พระธาตุดอยวาว ไม่เพียงเป็นจุดหมายปลายทางแห่งศรัทธา แต่ยังมีทำเลที่งดงาม จนต้องมนต์สะกด เพราะจากจุดสูงสุด ของดอยแห่งนี้ ท่านสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขง ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา และยังมองไปถึงฝั่งพม่า ที่อยู่ตรงข้ามได้อย่างชัดเจน พระธาตุแห่งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานเก่าแก่ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ ของความร่วมมือ ของทุกชนชั้นในสังคม ที่ช่วยกันสร้าง รักษา และฟื้นฟูให้ยังคงยิ่งใหญ่ และงดงาม

การก่อสร้าง และบูรณปฏิสังขรณ์ พระธาตุดอยวาว เกิดขึ้นผ่านกาลเวลา โดยมีทั้งกษัตริย์ (รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ) ประชาชน ("นายบุญยืน ศรีสมุทร") และพระสงฆ์ ("พระภิกษุดวงแสง รัตนมณี") ที่ต่างมีบทบาทสำคัญ ในการสืบทอดพระธาตุ ให้คงอยู่ตราบจนปัจจุบัน พลังแห่งศรัทธาที่แข็งแกร่งนี้ ทำให้พระธาตุดอยวาว กลายเป็นจุดหมายสำคัญ ของผู้แสวงบุญ และนักท่องเที่ยว ที่ต้องการสัมผัส บรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ และแน่นอนว่า ทริปนี้จะพาท่านไปสัมผัส สถานที่อันทรงคุณค่านี้ ให้ได้สักครั้ง ในชีวิต

วัดเจดีย์หลวง (องค์ประกอบสำคัญ ที่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด)

วัดเจดีย์หลวง: เรียนรู้อดีต เพื่อสร้างปัจจุบันที่ดีที่สุด

"อดีตมันผ่านไปแล้ว อนาคตยังมาไม่ถึง... ดังนั้น ปัจจุบันต้องดีที่สุดเสมอ" และองค์ประกอบสำคัญ ในการทำให้ปัจจุบันยอดเยี่ยม คือการศึกษาจากเรื่องราว ที่เกิดขึ้นมาแล้ว วัดเจดีย์หลวง เป็นหนึ่งในสถานที่ ที่สะท้อนหลักคิดนี้ ได้อย่างชัดเจน วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น ในอดีตโดย พญาแสนภู และกลายเป็น ศูนย์รวมแห่งประวัติศาสตร์ล้านนา ที่นี่เป็นที่ประดิษฐาน ของ องค์พระธาตุโบราณ ซึ่งภายในบรรจุ พระบรมสาริกธาตุ อันศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ ยังมี เจดีย์เก่าบริวาร และ พระพุทธรูปปางต่าง ๆ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และศิลปกรรมสูงสุด

โบราณสถานแห่งการเรียนรู้ สู่ปัจจุบันที่ดีที่สุด

วัดเจดีย์หลวง ได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถานแห่งชาติ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และเรียนรู้ถึงแนวคิด ในการสร้างชีวิตที่ดีที่สุด จากร่องรอยในอดีต ทุกมุมของวัด ล้วนเต็มไปด้วยความหมาย จากสถาปัตยกรรมโบราณ ที่ยังคงความงดงาม เหนือกาลเวลา ไปจนถึงหลักคำสอน ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิต ของชาวล้านนาอย่างลึกซึ้ง สำหรับนักเดินทาง ที่มองหาคุณค่า ในการท่องเที่ยว ที่นี่คือจุดหมายปลายทาง ที่ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ และความศรัทธา แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจ ในการ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อย่างแท้จริง ทริปนี้จึงไม่ใช่แค่ การเยี่ยมชมโบราณสถาน แต่เป็นประสบการณ์สุดคุ้มค่า ที่จะตราตรึงอยู่ในใจ ของทุกท่าน

ไร่สิงห์ หรือไร่บุญรอด

ไร่สิงห์ปาร์ค: เที่ยวชิลล์ หรือสัมผัสจริงจัง ก็คุ้มเกินคุ้ม

ไม่ว่าคุณ จะมาเที่ยวแบบเล่น ๆ หรือมุ่งมั่นมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แบบจริงจัง การได้เยือน ไร่สิงห์ปาร์ค (ไร่บุญรอด) เมื่อมาถึงเชียงราย ถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่า เกินกว่าทุกนาทีที่ใช้ไป ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่ ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงไร่ชา แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเกษตรครบวงจร ที่รวบรวมพืชพรรณ จากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น ชาอู่หลง รสละมุน พุทราไต้หวัน หวานกรอบ สตรอเบอรี่ และ มัลเบอร์รี่ สด ๆ จากไร่ หรือแม้แต่ ฟักทองยักษ์ ผัก ผลไม้เมืองหนาว ข้าวบาร์เล่ย์ ที่ช่วยเติมเต็มสีสัน ให้ไร่แห่งนี้ กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์ ของคนรักธรรมชาติ

ครบทุกมิติของการท่องเที่ยว ที่นี่คือคำตอบ

นอกจากความตื่นตา ของพืชไร่นานาชนิด ไร่สิงห์ปาร์ค ยังมี ฟาร์มปศุสัตว์ ให้คุณได้สัมผัสกับ สัตว์น่ารักนานาชนิด พร้อมทั้งสวนสัตว์ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สุดงดงาม ทุกมุมของที่นี่ ถูกออกแบบให้เป็นจุดท่องเที่ยว ที่ทั้ง สวย สนุก และน่าหลงใหล ไม่ว่าคุณจะชอบการเดินเล่นชมวิว ปั่นจักรยาน หรือขึ้นรถฟาร์มทัวร์ เพื่อสัมผัสทุกซอกมุมของไร่ ข่าวดีที่สุดคือ ทริปนี้จะพาท่าน ไปเยือนไร่สิงห์ปาร์คอย่างแน่นอน เตรียมตัวให้พร้อม สำหรับความเพลิดเพลิน และบรรยากาศสุดประทับใจ ที่รอคุณอยู่ที่นี่

วัดขาว วัดร่องขุ่น วัดอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

วัดร่องขุ่น: สัญลักษณ์แห่งศิลปะและศรัทธาของเชียงราย

หากพูดถึง เชียงราย ชื่อของ วัดร่องขุ่น หรือที่รู้จักกันในนาม "วัดขาว" ย่อมเป็นจุดหมาย ที่ไม่มีใครพลาด วัดแห่งนี้ถือเป็น Signature ประจำจังหวัด ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว จากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือต่างชาติ เพราะการมาเยือนเชียงราย แล้วไม่ได้แวะวัดร่องขุ่น ก็เหมือนยังมาไม่ถึง วัดแห่งนี้เป็นผลงาน ระดับมาสเตอร์พีซ ของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้ทุ่มเทแรงกาย และแรงศรัทธา ในการสร้างวัดร่องขุ่น ให้เป็นศิลปะมีชีวิต ไม่ใช่เพียงวัดสำหรับสักการะเท่านั้น แต่ยังเป็น แลนด์มาร์ก ที่สะท้อนความงาม ทางพุทธศิลป์ไทยร่วมสมัย

Art Journey: เปิดมุมมองศิลปะที่วัดร่องขุ่น

ทริปนี้ไม่ได้พาท่านมา แค่เยี่ยมชมวัดเท่านั้น แต่ยังให้ท่านได้ดื่มด่ำกับทุก Art Point ที่ซ่อนอยู่ในทุกมุมของวัด ตั้งแต่ พระอุโบสถสีขาวบริสุทธิ์ ที่เปรียบเสมือนสวรรค์อันเรืองรอง สะพานนรก-สวรรค์ ที่สะท้อนถึงหลักธรรม ทางพุทธศาสนา ไปจนถึงงานจิตรกรรม และประติมากรรม ที่สอดแทรกแนวคิด อันลึกซึ้ง นอกจากนี้ ท่านจะได้เข้าชม Gallery ที่จัดแสดงผลงานศิลปะ ของอาจารย์เฉลิมชัย และศิลปินระดับโลก บอกเลยว่าทริปนี้ เต็มอิ่มทั้ง ศิลปะ ความศรัทธา และแรงบันดาลใจ ที่หาที่ไหนไม่ได้ เตรียมกล้องให้พร้อม เพราะทุกมุมของวัดนี้ คือความงาม ที่ต้องบันทึกไว้ ในความทรงจำ

วัดร่องเสือเต้น ท่านไปวัดนี้ด้วย...

วัดร่องเสือเต้น: อัญมณีสีน้ำเงินแห่งล้านนา

วัดร่องเสือเต้น คือวัดที่สะท้อนศิลปะล้านนา อันเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือ แต่สิ่งที่ทำให้วัดนี้พิเศษ และแตกต่าง คือแรงบันดาลใจ จาก Blue Sapphire อัญมณีสีน้ำเงิน ที่เปล่งประกายงดงาม เหนือกาลเวลา สีฟ้าอันเจิดจรัส ของวัดร่องเสือเต้น เปรียบเสมือนการถ่ายทอดพลังศรัทธา ผ่านศิลปะ ทุกตารางนิ้วของวัดนี้ คือความตั้งใจในการสร้างสรรค์ ที่ไม่เพียงสะท้อนความงาม แต่ยังสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ และความลึกซึ้ง ของพุทธศาสนา

การเดินทางมายังวัดแห่งนี้ คือการก้าวเข้าสู่โลกแห่งศิลปะ และจินตนาการที่มีชีวิต เมื่อเข้าสู่ภายในอุโบสถ นักท่องเที่ยว จะได้พบกับ พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ พระพุทธรูปสีขาว ที่ตัดกับพื้นหลังสีน้ำเงิน อย่างโดดเด่น สร้างความรู้สึกสงบ และลุ่มลึกอย่างไม่น่าเชื่อ ลวดลายภายในวัด ได้รับการออกแบบ ให้ผสมผสานศิลปะไทยประยุกต์ เข้ากับพุทธปรัชญา ทำให้ทุกมุมของวัดนี้ เป็นเสมือนงานศิลป์ที่มีเรื่องราว การมาเยือนวัดร่องเสือเต้น จึงไม่ได้เป็นเพียง แค่การสักการะ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นโอกาส ในการซึมซับพลังแห่งศิลปะ และศรัทธา ที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำ ของทุกคน

วัดห้วยปลากั้ง

วัดร่องเสือเต้น: ศิลปะล้านนาแห่งสีน้ำเงินสะกดทุกสายตา

วัดร่องเสือเต้น คืออีกหนึ่งวัดงดงามแห่งเชียงราย ที่สร้างขึ้น ตามแบบวัฒนธรรมล้านนา แต่สิ่งที่ทำให้วัดนี้พิเศษเหนือใคร คือแรงบันดาลใจ จากอัญมณีเลอค่า Blue Sapphire ซึ่งเป็นที่รู้จัก ในฐานะเครื่องประดับสีน้ำเงินล้ำค่า ที่ตราตรึงใจทุกคน ตั้งแต่แรกเห็น วัดแห่งนี้จึงถูกออกแบบ ให้โดดเด่นด้วย โทนสีฟ้า-น้ำเงิน อันเจิดจ้า เปรียบเสมือนอัญมณี ที่เปล่งประกาย ในศิลปะล้านนา ทำให้ผู้มาเยือน รู้สึกราวกับ ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความฝัน ที่เต็มไปด้วยความวิจิตรบรรจง

มหัศจรรย์แห่งศิลปะพุทธศิลป์ล้านนา

ทริปนี้จะพาท่าน ไปสัมผัสกับความงามสุดล้ำค่า ของ วัดร่องเสือเต้น พร้อมดื่มด่ำกับพุทธศิลป์ ที่ถูกสร้างสรรค์อย่างปราณีต องค์พระประธานสีขาว "พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ" ตัดกับพื้นหลังสีน้ำเงิน ของอุโบสถได้อย่างลงตัว ด้านในประดับด้วย จิตรกรรมที่ผสมผสาน ลวดลายล้านนา เข้ากับมิติแห่งศิลปะร่วมสมัย ทำให้ทุกมุมของวัด เป็นผลงานศิลปะที่มีชีวิต หากคุณต้องการประสบการณ์ ที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์ และสวยงาม จนประทับอยู่ในความทรงจำ วัดร่องเสือเต้น คือสถานที่ที่คุณ ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง

	Temples Concern 3 วัน 2 คืน
	วันที่ 1: ศิลปะล้านนา ศรัทธา และธรรมชาติสุดอลังการ 08:00 น. ทัวร์ไกด์ของเจซีทัวร์ รอต้อนรับลูกค้าที่สนามบินเชียงราย พร้อมแสดงป้ายชื่อ เพื่อให้ลูกค้า สามารถสังเกตได้ง่าย จากนั้นแนะนำตัวเอง และคนขับรถที่สุภาพ และเชี่ยวชาญเส้นทาง พร้อมช่วยดูแลสัมภาระ และพาลูกค้าขึ้นรถส่วนตัว ที่สะอาดและสะดวกสบาย เพื่อเริ่มต้นการเดินทาง ที่สมบูรณ์แบบ ในเชียงราย 08:30 น. ออกเดินทางไปยัง “วัดร่องขุ่น” หรือวัดขาว วัดที่เป็นสัญลักษณ์ของเชียงราย ซึ่งออกแบบ และสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างสรรค์ศิลปะเชิงพุทธศาสนา ได้อย่างอลังการ เดินเข้าสู่ซุ้มประตู ผ่านสะพานข้ามนรก ที่สะท้อนหลักคำสอน ทางพระพุทธศาสนา ก่อนเข้าสู่พระอุโบสถสีขาวบริสุทธิ์ ที่งดงาม ราวกับแดนสวรรค์ ทุกจุดในวัด เต็มไปด้วยรายละเอียด ศิลปะ ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความประณีต ทุกตารางฟุต คือผลงานศิลป์ ที่สะท้อนปรัชญา ทางพุทธศาสนา 11:00 น. เดินทางถึงไร่สิงห์ หรือไร่บุญรอด จุดหมายแห่งธรรมชาติ และเกษตรกรรมของเชียงราย หลังจากถึงที่หมาย เจ้าหน้าที่จะนำลูกค้า ขึ้นรถราง พาชมสถานที่สำคัญ ภายในไร่ โดยรถรางจะวิ่งช้า ๆ ให้ลูกค้าได้ซึมซับ บรรยากาศอันงดงาม แวะเยี่ยมชมจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สวนสัตว์ในไร่ ไร่ดอกไม้ที่ผลิบานหลากสีสัน แปลงพืชเกษตร ที่ปลูกชาอู่หลง และผลไม้เมืองหนาว จุดชมวิวไร่ชา ที่ทอดยาวสุดสายตา รวมถึงลานดอกไม้ ทุ่งหญ้า ร้านชากาแฟริมทะเลสาบหงส์ สวนพุทธา และเนินดอกไม้ ที่สร้างความสดชื่น และเพลิดเพลิน ระหว่างการเดินทาง 12:30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ภายในไร่สิงห์ ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม จากเกษตรอินทรีย์ภายในไร่ รสชาติอาหารเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานความเป็นพื้นเมือง กับเมนูร่วมสมัย ได้อย่างลงตัว 13:00 น. ออกเดินทางไปยังวัดร่องเสือเต้น วัดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยสีน้ำเงินสดใส เปรียบเสมือน อัญมณีแห่งภาคเหนือ เมื่อมาถึง ทัวร์ไกด์จะพาชม และอธิบายถึงสถาปัตยกรรมของวัด ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จาก Blue Sapphire สะท้อนความศรัทธา ผ่านศิลปะที่ละเอียดลออ วิจิตรตระการตา 15:00 น. เดินทางไปยังวัดห้วยปลากั้ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญ ของเชียงราย ที่ผสมผสานศิลปะแบบจีน และล้านนา เข้าด้วยกัน ที่นี่เป็นที่ตั้งของ “เจดีย์นัดพบโชค” ซึ่งเป็นเจดีย์สูง 9 ชั้น ที่มีพระแม่กวนอิมแกะสลัก จากไม้จันทร์หอม ครบทุกปาง ลูกค้าสามารถเดินชม ความงดงามของศาสนสถาน และขึ้นไปยังชั้นบนสุด ของเจดีย์ เพื่อชมวิวเมืองเชียงราย จากมุมสูง 16:00 น. เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงราย เพื่อเยี่ยมชมวัดกลางเวียง วัดมิ่งเมือง และวัดพระแก้ว ซึ่งล้วนเป็นวัดเก่าแก่ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของจังหวัดเชียงราย โดยวัดพระแก้ว เป็นวัดที่เคยเป็นที่ประดิษฐาน ของพระแก้วมรกต ก่อนจะถูกอัญเชิญ ไปยังเมืองอื่น ๆ จนกระทั่ง ถึงกรุงเทพมหานคร 18:00 น. รับประทานอาหารเย็น ที่ภัตตาคารพื้นเมืองเชียงราย ซึ่งคัดสรรเมนูอาหารเหนือ รสชาติดั้งเดิม พร้อมบรรยากาศที่อบอุ่น และเป็นกันเอง 19:30 น. เดินทางเข้าสู่ที่พักสุดหรู Le Meridien Chiang Rai Resort เช็คอิน และพักผ่อน ตามอัธยาศัย ลูกค้าสามารถใช้เวลาเพลิดเพลิน กับสิ่งอำนวยความสะดวก ของรีสอร์ทระดับ 5 ดาว ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำวิวแม่น้ำ ค็อกเทลบาร์ หรือสปาสุดหรู เพื่อเติมเต็มความสุข ก่อนเริ่มต้นการเดินทาง ในวันถัดไป วันที่ 2: สัมผัสธรรมชาติ ศรัทธา และประวัติศาสตร์แดนเหนือ 07:00 น. เริ่มต้นเช้าวันใหม่ ด้วยการรับประทานอาหารเช้าอย่างมีความสุข ริมแม่น้ำกก ณ รีสอร์ทสุดหรู Le Meridien Chiang Rai Resort เพลิดเพลินกับบรรยากาศสงบเงียบ และอาหารคุณภาพระดับพรีเมียม 08:00 น. ทัวร์ไกด์รับท่านลูกค้าแต่เช้า เพื่อเดินทางขึ้นสู่จุดเหนือสุด ของประเทศไทย พร้อมสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ และวิวธรรมชาติ ที่สวยงามระหว่างทาง 09:00 น. เดินทางถึง ดอยตุง จุดหมายสำคัญของวันนี้ เริ่มต้นด้วยการชม สวนแม่ฟ้าหลวง ที่เต็มไปด้วยดอกไม้เมืองหนาว นานาชนิด อวดโฉมในสีสันสดใส ทุกฤดูกาล พร้อมเข้าชม พระตำหนักดอยตุง ที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมล้านนา ผสมผสานสไตล์สวิสเซอร์แลนด์ 10:30 น. แวะนมัสการ พระธาตุดอยตุง พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ที่ประดิษฐานอยู่บนยอดดอยสูง แม้จะอยู่บนภูเขา แต่การเดินทางขึ้นไปไม่ลำบาก เพราะรถสามารถขับขึ้นไปได้อย่างสะดวก ท่านลูกค้า สามารถกราบไหว้สักการะ และชมวิวอันกว้างไกล ของเมืองเชียงรายจากจุดนี้ 11:30 น. มุ่งหน้าสู่ วัดพระธาตุดอยวาว วัดที่ตั้งอยู่บนทำเล ที่งดงามเป็นพิเศษ จากจุดนี้ สามารถมองเห็นทัศนียภาพกว้างไกล ไปจนถึงฝั่งประเทศพม่า ซึ่งถูกกั้นกลางด้วยแม่น้ำโขง นมัสการพระธาตุ และเดินชมศาสนสถานที่สวยงาม และเต็มไปด้วยเรื่องราวทางศาสนา และประวัติศาสตร์ 12:30 น. เดินทางสู่ สามเหลี่ยมทองคำ จุดบรรจบของสามประเทศ ไทย ลาว และเมียนมาร์ ที่แม่น้ำโขง และแม่น้ำรวก ไหลมารวมกัน ชมทัศนียภาพ ที่เป็นเอกลักษณ์ และสัมผัสมนต์เสน่ห์ ของชายแดนทางเหนือ 13:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารริมแม่น้ำโขง เพลิดเพลินกับอาหารเหนือ และอาหารพื้นเมือง พร้อมดื่มด่ำ บรรยากาศสุดผ่อนคลาย ริมสายน้ำ 14:00 น. แวะเยี่ยมชม วัดเจดีย์หลวง แห่งเชียงแสน วัดเก่าแก่ที่ถูกขึ้นทะเบียน เป็นสถานที่สำคัญ ทางประวัติศาสตร์ ที่นี่เป็นวัด ที่มีเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุด ของเชียงแสน สัมผัสกลิ่นอาย อารยธรรมล้านนาโบราณ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ของดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ 15:00 น. เดินทางถึง วัดขัวแคร่ วัดที่เต็มไปด้วยความงดงามแห่งศิลปะ และศรัทธา ทุกศาสนสถาน ภายในวัด ถูกออกแบบอย่างประณีต เชื่อมโยงระหว่างอารมณ์ ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีของล้านนา 16:00 น. เยี่ยมชม วัดพระเชตุพล ในอำเภอเวียงเชียงราย วัดที่มีความเก่าแก่ และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และยังคงเป็นสถานที่สำคัญ สำหรับผู้มีจิตศรัทธา 18:00 น. รับประทานอาหารเย็น ที่ร้านอาหารริมแม่น้ำกก ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง ในบรรยากาศล้านนาแท้ ๆ ที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สบาย และอบอุ่น 19:30 น. เดินเล่นที่ ถนนคนเดินเชียงราย สัมผัสวิถีชีวิตของชาวเชียงราย ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่มีเสน่ห์ เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง สินค้าหัตถกรรม งานศิลปะ และอาหารพื้นเมือง 21:00 น. ส่งท่านลูกค้ากลับที่พัก Le Meridien Chiang Rai Resort ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย พร้อมเตรียมตัว สำหรับการเดินทางในวันสุดท้าย วันที่ 3: ปิดทริปอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยศรัทธา และความทรงจำอันงดงาม 07:00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ Le Meridien Chiang Rai Resort เพลิดเพลินกับวิวแม่น้ำกก ที่เงียบสงบ พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารเช้า หลากหลายเมนู 09:00 น. เช็คเอาท์ออกจากรีสอร์ท ทัวร์ไกด์ช่วยดูแลสัมภาระของลูกค้า ขึ้นรถ และเตรียมเดินทาง สู่จุดหมายสุดท้ายของทริป 09:30 น. แวะ วัดขัวแคร่ วัดแห่งศิลปะและศรัทธา ที่สะท้อนถึงความเชื่อมโยง ระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่นี่เป็นวัดที่งดงามไร้ขีดจำกัด ทุกศาสนสถาน ถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง ผสมผสานศิลปะแบบล้านนา และความร่วมสมัย ทำให้การเยี่ยมชมที่นี่ ไม่เพียงเป็นการไหว้พระ แต่ยังเป็นการซึมซับ พลังงานแห่งศิลปะ และวัฒนธรรม 12:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารชื่อดัง ในเชียงราย พร้อมลิ้มรสอาหารพื้นเมือง ที่มีเอกลักษณ์ และรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ของเมืองเหนือ 14:00 น. เดินทางสู่ วัดแม่สรวย หรือ วัดพระธาตุจอมแจ้ง วัดที่เป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธา ของผู้แสวงบุญ นมัสการพระธาตุ เพื่อเป็นสิริมงคล และสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบ ของวัดที่ตั้งอยู่บนเนินสูง ทำให้สามารถมองเห็น วิวโดยรอบได้อย่างงดงาม สำหรับท่านที่ตั้งใจไหว้พระ ให้ครบ 12 วัด ในเชียงราย วัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่สุดท้าย ที่เติมเต็มความฝัน ในการแสวงบุญ และหากนับจากนี้ไป มีความฝันใดเกิดขึ้น ก็คงเป็นเพียง "ฝันดี" อย่างแน่นอน 15:00 น. แวะร้านของฝากชื่อดัง แห่งเมืองเชียงราย ให้ท่านลูกค้าได้เลือกซื้อ ของดีของขึ้นชื่อ ไม่ว่าจะเป็นชาอู่หลง ผลไม้อบแห้ง งานหัตถกรรมท้องถิ่น และของที่ระลึกสุดพิเศษ เพื่อนำกลับไปฝากคนที่บ้าน 16:30 น. เดินทางถึง สนามบินเชียงราย ทัวร์ไกด์และทีมงาน JC Tour กล่าวคำอำลา และขอบคุณท่านลูกค้า สำหรับการเดินทางร่วมกัน พร้อมอำนวยความสะดวก เรื่องสัมภาระ และการเช็คอิน ก่อนส่งท่านเดินทางกลับ โดยสวัสดิภาพ

รายละเอียดราคา

ที่ JC Tour เราทุ่มเท เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำที่สุด ให้กับลูกค้าทุกท่าน เราให้ความสำคัญ กับการจัดสรรเวลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านได้ดื่มด่ำ กับความงดงามของแต่ละจุดหมายปลายทาง พร้อมด้วยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มอบข้อมูลเชิงลึก และบริการ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

ดังนั้น ราคานี้จึงเป็นสำหรับ ทริปแบบส่วนตัวเท่านั้น
แนวทางนี้สะท้อนถึงปรัชญาของเรา: “ทุกช่วงเวลาของการเดินทาง ควรพิเศษกว่าวันธรรมดาเสมอ”

	ราคา
	ผู้ใหญ่ 12,500 บาท/ท่าน (Double Room)   ทริปนี้เหมาะสำหรับ ท่านที่มีอายุไม่น้อยกว่า 23 ปี (การบริโภคสิ่งที่มีอยู่จริง แต่มองไม่เห็น ที่เรียกรวม ๆ กันว่า "กุศล บุญ เป็นมงคล และศรัทธา" จำเป็นต้องมีความลึกซึ้ง ทางจิตวิญญาณ สูง)

ทุกอย่างเป็น Private และ Stand by 24 ชั่วโมง

ราคานี้รวม:

• รถรับส่ง นำเที่ยว และ Stand By 24 ชั่วโมง
• ทัวร์ไกด์ ประจำกลุ่ม (เรียกใช้ พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)
• ทัวร์ไกด์ เฉพาะทางทุกวัด ที่มีความซับซ้อนทางข้อมูล
• ค่าผ่านเข้าพื้นที่ครบทุกแห่ง
• อาหารครบทุกมื้อ
• รีสอร์ทที่พัก ดีที่สุดในระดับ นานาชาติ - Le Meridien เชียงราย
• ประกันภัย

Le-Meridian เชียงราย

Le Meridien Chiang Rai: นิยามแห่งความสะอาดและความสมบูรณ์แบบ

ว่ากันว่า “หากคุณต้องการมั่นใจว่า เมื่อรื้อผ้าปูที่นอนในโรงแรม ที่คุณเพิ่งเช็กอิน แล้วจะไม่มีวันเจอแมลงสาบ” คุณต้องเลือก Le Meridien เท่านั้น แม้จะเป็นเพียงคำเปรียบเปรย แต่ก็สะท้อนถึงมาตรฐานที่เข้มงวด ของแบรนด์โรงแรมระดับโลกแห่งนี้ ได้อย่างชัดเจน ที่นี่ไม่ได้ให้เพียงที่พักสุดหรู แต่ให้ความมั่นใจใน มาตรฐานความสะอาดระดับสูงสุด ทุกตารางนิ้วของรีสอร์ต ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่ผ้าปูที่นอน นุ่มสะอาดไร้ที่ติ ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พร้อมให้บริการในแบบไร้ที่ติ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม Le Meridien จึงเป็นโรงแรมอันดับต้น ๆ ของโลก ที่ให้คำมั่นว่า "ไม่มีวันผิดหวัง ถ้าคุณพักที่นี่"

JC Tour เข้าใจดีว่า ประสบการณ์การพักผ่อน ที่ยอดเยี่ยม ไม่ได้อยู่แค่ในสถานที่ท่องเที่ยว แต่ต้องมาพร้อมที่พัก ที่สมบูรณ์แบบ Le Meridien Chiang Rai ถูกเลือกให้เป็น ที่พักของทริปนี้ แม้ราคาจะสูงจนน่าตกใจ แต่ความคุ้มค่านั้น ไม่อาจวัดค่าได้ รีสอร์ตระดับ 5 ดาวแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก พร้อมบรรยากาศสงบเงียบ และบริการเหนือระดับ ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ พักผ่อนที่หรูหรา สะอาด สมบูรณ์แบบในทุกมิติ JC Tour จึงเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับลูกค้าทุกท่าน เพราะเราเชื่อว่า... การเดินทางที่ดี ควรจบลงด้วยการพักผ่อน ที่ยอดเยี่ยม

---

ทำไมต้องเจซีทัวร์?

• เจซีทัวร์จดทะเบียนท่องเที่ยว หมายเลข..34/00235 (Inbound นำเที่ยวจากต่างประเทศ และทั่วประเทศไทย), 31/01235 (Outbound นำเที่ยวได้ทั่วโลก) บริษัทประกันภัย ต้องดูแลคุ้มครองทั่วโลก ที่ลูกค้าของเจซีทัวร์เดินทางไปถึง
• เจซีทัวร์ จดทะเบียน การพาณิชย์ อิเล็กโทรนิกส์ ถูกต้อง หมายเลข 0835557015003
• เจซีทัวร์ คือบริษัททัวร์ ที่ได้รับการรับรองจาก สมาชิก TripAdvisor ว่าเป็นบริษัทที่บริการดีที่สุดในโลกครับ.
• จริงหรือ? ทำไมจะไม่ลองอ่านดูครับว่า "ชาวโลกเขาพูดถึงเจซีทัวร์" ว่าอย่างไร? ต้องจ่ายค่าทัวร์ตั้งแพงนะ แนะนำอ่านเลยครับ!!! Click